ลดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยลง
![]() |
Photo by scyg (CC0 1.0) |
หาให้ได้ มากกว่า ที่ใช้จ่ายไปฟังดูเรียบง่ายจนดูตลก แต่มันคือความจริง
วิธีนึงที่น่าสนใจ คือ ตัดค่าใช้จ่าย ใช้ให้น้อยลง
มีคนญี่ปุ่น เคยให้คติไว้ว่า
ประหยัดได้ 1 บาท เท่ากับหามาได้ 2 บาทเหตุผลเบื้องหลังคือ
ถ้าเราประหยัดรายจ่ายฟุ่มเฟือย เช่น ปิดแอร์ตั้งแต่ 03.00 น., ไม่เปิดไฟฟุ่มเฟือย, ไม่ซื้อของเทคโนโลยีเกินจำเป็น
เราก็สามารถเก็บเงินได้ทันที แทบจะไม่มีต้นทุนอะไรเพิ่ม
แตกต่างจากเวลาเราไปหาเงิน
เราต้องออกเดินทาง ขึ้นรถ ขึ้นเรือ ขึ้นรถไฟฟ้า ขับรถไป
ทุกอย่างมีต้นทุน คือ ค่าน้ำมัน ค่าโดยสาร
ดังนั้น การเริ่มต้นก็ คือ ตัดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยออก
จากประสบการณ์ของเจ้าของบล็อก
รายจ่ายส่วนใหญ่ที่เกินจำเป็นและน่าจะแก้ได้ สำหรับคนธรรมดาทั่วไป ได้แก่
- ค่าซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านสะดวกซื้อ
-> เรามักจะซื้ออาหาร ขนม น้ำผลไม้ที่ฟุ่มเฟือย
ทั้ง ๆ ที่เรามีทางเลือกที่ดีกว่ามากมาย เช่น
เปลี่ยนจากกินขนม เปลี่ยนเป็น ผลไม้ตามฤดูกาลที่ราคาเหมาะสม
อาหารสำเร็จรูปราคาแพง เปลี่ยนเป็น ผักสด เนื้อปลา-ไก่ ตามสมควร
กินเป็นมื้อ ๆ ไม่กินจุบจิบ
รวมถึงค่ากาแฟราคาแพง (แก้วละ 80 บาท กิน 365 วัน = 29,200 บาท)
สมมติเงินเดือน 15,000 บาท ทำงาน 22 วัน ตกค่าแรงวันละ 681 บาท (สมมติว่าเป็นขั้นต่ำ)
กาแฟ 80 บาท = 10% ของค่าแรงเข้าไปแล้ว - ค่าทานอาหารนอกบ้าน
-> ถ้าทำอาหารเอง กินเองที่บ้าน ราคาค่อนข้างจะถูกกว่ามาก
ค่าข้าวนอกบ้าน ร้านอาหารหรูหน่อย เฉลี่ย 300 บาท ต่อการเข้าไปทาน 1 ครั้ง
300/681 = 44% ของค่าแรงต่อวัน - ค่าเหล้า-บุหรี่
-> บางบ้าน คิดเป็น 25% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ถ้าเลิกได้ จะช่วยได้มาก - ค่าช็อปปิ้ง
-> ข้อนี้ คุณผู้หญิง มักจะจมเงินไปกับการซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า มากเกินความจำเป็น - ค่าสินค้าเทคโนโลยี
-> สินค้าพวกนี้ รอบของการออกจะเร็วมาก ปัจจุบัน อยู่ที่ 6 เดือน ดังนั้น อย่าไปไล่รุ่น
ซื้อตามจำเป็นที่เราต้องใช้ทำงาน (ไม่นับซื้อมาเล่นเกม) - ค่าไฟฟ้า ดูไอเดียวิธีลดค่าไฟฟ้า
นอกจากนี้ เราควรต้องระวังเรื่องการตลาด เป็นกับดักที่เรามักจะติดง่ายในปัจจุบัน
หัวข้อนึงที่ควรรู้คือ เรื่อง การบริโภคโอ้อวด (Conspicuous consumption)
หนึ่งในเป้าหมายของการโฆษณาและการตลาดก็คือการทำให้ผู้คนไม่มีความสุขกับสิ่งที่ตนมีอยู่ และพวกเขาก็จะซื้อหาสิ่งใหม่ ๆ - Thorstein Veblen
สิ่งที่เราระวังได้อีกตัวนึงก็คือ ต้นทุนสุขภาพ
ปัญหาทางด้านสุขภาพสามารถสร้างรายจ่ายให้แก่เราได้มหาศาล (ใครไม่เคยมีญาติผู้ใหญ่ที่ป่วยเรื้อรังอาจจะไม่รู้เรื่องนี้)
วิธีแก้คือ ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม คือ ดูแลสุขภาพตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
หลักการทั่วไปคือ
- รับวัคซีนให้ครบ
- กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหมุนเวียนเมนูอาหารเสมอ
- หลีกเลี่ยง หวาน มัน เค็ม
- ควบคุมน้ำหนักอย่าให้อ้วน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ถ้าไม่รู้จะทำอะไร หาเพื่อนออกไปเดินเร็ว อย่างน้อยวันละ 30-60 นาที (ถ้ามีโรคเรื้อรังเยอะ ๆ ปรึกษาแพทย์ก่อนจะวางแผนออกกำลังกาย)
- กินยาอะไรอยู่ คอยปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลเป็นระยะ ๆ ด้วย ยาหลาย ๆ ตัว มีผลเยอะกับตับไต ถ้าเราซื้อยามาใช้เอง ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ อาจจะส่งผลให้ตับไตเราเสียถาวรได้ ซึ่งจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเยอะมาก
- ถ้ามีโรค ไขมัน ความดัน เบาหวาน คอยกินยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ (คอยพบแพทย์เป็นระยะ ๆ อย่าซื้อกินเอง) เพราะพวกนี้เป็นโรคเรื้อรัง ถ้าคุมไม่ดี จะทำให้พวกระบบหลอดเลือดมีปัญหา ทำให้โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ ไต ถามหาเอาได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น